ฟุตบอลโลกแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้ายที่กำลังจะเปิดฉากการแข่งขันในวันที่ 21 พ.ย. 65 – 18 ธ.ค. 65 นับจากวันนี้ไปเหลืออีกเพียงไม่ถึงเดือนฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์จะเริ่มฟาดแข้งอย่างเป็นทางการ และหลังจากผลการจับสลากแบ่งสายเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่เจองานหนักงานเบาแค่ไหนใครอยู่ร่วมสายกับใครบ้าง Ambbetxพาคุณมาสรุปทีมเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก2022
ใครจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลก 2022 จะเปิดฉากการแข่งขันรอบ 32 ทีมสุดท้ายในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 และจะไปสิ้นสุดการแข่งขันวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ประเทศกาตาร์ และนี้คือ 10 ทีมเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
อันดับ 10. เดนมาร์ก
เจ้าของผลงานเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโรป 2020 ที่ผ่านมา และเป็นชาติลำดับที่ 2 ของโลกที่การันตีได้สิทธิ์เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกหนนี้ เดนมาร์ก แม้จะไม่มีซูเปอร์สตาร์แต่เล่นด้วยระบบทีมที่ยอดเยี่ยม เหนียวแน่นแพ้ยากจนเป็นที่จับตาว่าจะเป็นม้ามืดในเวิลด์คัพหนนี้ เดนมาร์กอยู่ร่วมสายกับ ฝรั่งเศส, ตูนิเซีย และเปรู
อันดับ 9. เนเธอร์แลนด์
อีกหนึ่งสุดยอดทีมที่เคยทะลุเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 3 สมัย แต่โชคร้ายยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกแม้แต่หนเดียว เนเธอร์แลนด์ชุดนี้ผสมผสานดาวรุ่งและแข้งตัวเก๋าอย่างลงตัว แถมยังมี หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือจอมปรัชญาเป็นผู้นำที่สำคัญ เนเธอร์แลนด์อยู่สายไม่หนักโดยมีเพื่อนร่วมสายอย่าง กาตาร์, เซเนกัล และเอกวาดอร์
อันดับ 8. โปรตุเกส
โปรตุเกสชุดนี้ถูกมองว่าเป็นชุดที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษก็ว่าได้มีแข้งอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ แฟร์นานเดส, แบร์นาโด้ ซิลวา และ ดิเอโก้ โชต้า สำหรับโปรตุเกสอยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้หนักมากร่วมสายกับ กาน่า, อุรุกวัย และเกาหลีใต้
อันดับ 7. เบลเยี่ยม
เจ้าของอันดับ 3 ฟุตบอลโลกสมัยที่แล้ว และกลายเป็นทีมอันดับหนึ่งของโลกตลอดเกือบ 4 ปีที่ผ่านมาจากการจัดอันดับของฟีฟ่า แต่ว่าล่าสุดหล่นมาเป็นอันดับ 2 โดยถูกบราซิลแซงหน้าขึ้นไป สำหรับเบลเยี่ยมมีสตาร์ดังอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู และเอแด็ง อาซาร์ อยู่ร่วมสายกับโครเอเชีย, แคนาดา และโมร็อกโก
อันดับ 6. เยอรมัน
หนึ่งในทีมที่มาตรฐานสูงที่สุดและเคยเข้าชิงฟุตบอลโลกมากสมัยที่สุด แชมป์โลกครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 สำหรับเยอรมันชุดนี้ผสมผสานผู้เล่นตัวเก๋าและดาวรุ่งฝีเท้าดี ภายใต้กุนซือยอดฝีมืออย่างฮันซี่ ฟลิค เยอรมันอยู่ร่วมสายกับ สเปน, ญี่ปุ่น และคอสตาริก้า
อันดับ 5. อาร์เจนติน่า
เจ้าของแชมป์โคปา อเมริกาสมัยล่าสุด และอดีตรองแชมป์โลกปี 2014 โดยแพ้ให้เยอรมันนัดชิง สิ่งที่น่าจับตามองก็คือนี่อาจเป็นการเล่นทีมชาติครั้งสุดท้ายของลิโอเนล เมสซี่ก็เป็นได้ อาร์เจนติน่า อยู่ร่วมสายกับ ซาอุดิอาระเบีย, โปแลนด์ และเม็กซิโก
อันดับ 4. สเปน
อดีตแชมป์โลกปี 2010 ที่ระยะหลังมาตรฐานดูตกลงไปหลังไร้ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์อย่าง อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดส, เชส ฟาเบรกาส, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาบิด บีญ่า และชาบี อลอนโซ่ อย่างไรก็ตามสเปนยุคใหม่มีดาวรุ่งฝีเท้าดีที่รอวันฉายแสงทั้ง เปดรี้, กาบรี้ สองแข้งจากบาร์ซ่า มิเกล ออยาร์ซาบาล จากเรอัล โซเซียดัด และเคราร์ด โมเรโน่ จากบียาร์เรอัล สเปนอยู่ร่วมสายกับ เยอรมัน, ญี่ปุ่น และคอสตาริก้า
อันดับ 3. อังกฤษ
หนึ่งในทีมที่ถูกตั้งความหวังไว้สูงทุกครั้งและดูเหมือนว่าครั้งนี้จะใกล้เคียงที่สุดหลังจากเพิ่งจะคว้ารองแชมป์ยูโร 2020 มาครองได้ และฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วก็ทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศมาแล้วถือเป็นยุคที่มีผลงานที่จับต้องได้ อังกฤษร่วมสายกับ อิหร่าน, สหรัฐฯ และเวลส์
อันดับ 2. ฝรั่งเศส
แชมป์เก่าฝรั่งเศสถูกยกให้เป็นเต็ง 2 ซึ่งดูจากขุมกำลังก็ถือว่ายังแข็งแกร่งและมีผู้เล่นตัวหลักจากชุดคว้าแชมป์โลกครั้งที่แล้วเยอะมากแนวรุกมีทั้ง คาริม เบนเซม่า, คีเรียน เอ็มบัปเป้ และอุสมาน เดมเบเล่ กองกลางมีปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ฝรั่งเศสอยู่ร่วมสายกับ เดนมาร์ก, ตูนีเซีย และเปรู ซึ่งถือว่าไม่หนักเลยน่าจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่ามักตกรอบแรกอย่างที่เคยประสบมาแล้ว
อันดับ 1. บราซิล
เจ้าของแชมป์โลก 5 สมัยซึ่งมากที่สุดเหนือทุกทีม ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์โซนอเมริกาใต้ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนี้เองทำให้ทีมแซมบ้าก้าวขึ้นมายึดหมายเลขหนึ่งของโลกแทนที่เบลเยี่ยมได้สำเร็จ บราซิลจะอยู่ร่วมสายกับ สวิตเซอร์แลนด์, เซอร์เบีย และแคเมอรูน